Skip to content

สกศ. เร่งหารือแนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา นางอำภา พรหมวาทย์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว โดยมีผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 สำนักงานเทศบาลเมืองท่าโขลง จ.ปทุมธานี สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง สำนักพัฒนากฎหมายการศึกษา ร่วมหารือ ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 

นางอำภา กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า ไทยในฐานะที่เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) จึงมีพันธกรณีที่จะต้องให้การศึกษาแก่เด็กทุกคน และสกศ. เป็นหน่วยนโยบายการศึกษาของประเทศ จึงให้ความสำคัญการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว สำหรับประเด็นข้อมูลข้อเสนอแนวทางในการจัดการศึกษาวันนี้ กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษาของเด็กต่างด้าวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาต่อไป

ข้อค้นพบจากการลงพื้นที่การประชุมเชิงปฏิบัติการ 4 ภูมิภาค ได้แก่ 1) การดำเนินการส่งเสริมคุณภาพการจัดการศึกษาให้กับเด็กต่างด้าวที่อยู่ในระบบ ความไม่ชัดเจนของกฎหมายและการตีความ การเลือกปฏิบัติและการตีตราในทางสังคม ข้อจำกัดด้านทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน ความไม่สอดคล้องของนโยบายในระดับท้องถิ่น การไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ 2) การจัดการศูนย์การเรียนสำหรับคนต่างด้าวที่ไม่อยู่ในระบบ เด็กต่างด้าวติดตามผู้ปกครองมาด้วยวิธีที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เด็กไม่กล้าแสดงตนเข้ารับการศึกษาอย่างถูกต้อง สถานศึกษาเอกชนสามารถรับเด็กต่างด้าวที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนได้ง่ายกว่า ผู้ปกครองที่เข้าเมืองไม่ถูกต้องยังไม่กล้าส่งเด็กเข้ารับการศึกษา รวมถึงการเปิดศูนย์การเรียนที่ผิดกฎหมายแต่เด็กยังเข้าเรียนเพราะสามารถนำไปเทียบวุฒิกับประเทศของตนได้

ที่ประชุมให้ข้อมูลการรับเด็กต่างด้าวเข้าเรียนในสถานศึกษา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีเอกสารหลักฐานบันทึกประวัติที่ถูกต้อง เพื่อยืนยันตัวตนจึงจะสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนได้ การมีนโยบายกฎระเบียบที่ชัดเจนในการเข้าเรียน แต่ปัญหาคือยังไม่มีหน่วยงานผู้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ขาดการบูรณาการ ส่วนการลงทะเบียนระบบข้อมูล G Code ของกระทรวงมหาดไทย เป็นการลงทะเบียนเพื่อขอรหัสประจำตัวสำหรับนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร ไม่มีสัญชาติไทย สามารถใช้ในการเข้าถึงการศึกษา โดยระบบนี้จะออกรหัส G (Generate) แทนเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แต่ทั้งนี้ระบบจะมีปัญหาในการลงทะเบียน ดังนั้น แนวทางการแก้ไข อยากให้มีหน่วยงานกลางที่มีบทบาทในการออกหลักฐาน มีแนวปฏิบัติที่มีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงมีที่ปรึกษา นอกจากนี้การระบุตัวบุคคลของเด็ก ต้องการออกแบบนวัตกรรมการเก็บข้อมูลของเด็กต่างด้าวโดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ เช่น การขึ้นทะเบียนต้องกรอกข้อมูลกลุ่มผู้ติดตามด้วยทุกครั้ง มีการแยกประเภทเพื่อการบริหารจัดการฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง:

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2568). สกศ. เร่งหารือแนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กต่างด้าว. สืบค้น 9 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.onec.go.th/th.php/page/view/Newseducation/6288