
คำว่า “เล่น” อาจดูไร้สาระในสายตาผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาได้ห่างจากวัยเยาว์จนลืมความสุขของการเล่น ทั้งที่ “การเล่น” เคยเป็นส่วนสำคัญของชีวิตพวกเขาเอง สำหรับเด็กแล้ว การเล่นคือพื้นฐานของการเรียนรู้และพัฒนาการ งานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าการเล่นช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มการส่งสัญญาณประสาท และเสริมการประสานงานระหว่างสมองกับร่างกาย
การเล่นจึงมีความหมายอย่างยิ่ง เป็นการเรียนรู้อย่างมีความสุข ช่วยเสริมพัฒนาการทางกายใจและจิตวิญญาณ แตกต่างจากการหมกมุ่นกับสื่อเทคโนโลยีที่ทำให้เด็กยุคใหม่เล่นน้อยลง การเล่นยังจุดประกายจินตนาการและแรงบันดาลใจ ซึ่งส่งผลต่อเส้นทางอาชีพในอนาคต ดังที่ผู้ใหญ่หลายอาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ ครู หรือแพทย์ ต่างยืนยันว่าประสบการณ์เล่นในวัยเด็กมีอิทธิพลต่อการเลือกอาชีพ
สถานที่และสภาพแวดล้อมการเล่นเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสุข พื้นที่เล่นที่ดีต้องสนุก มีชีวิตชีวา และสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย ผู้ใหญ่จึงควรมีบทบาทในการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและตอบสนองความต้องการของเด็ก
หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงจากประสบการณ์จริงและงานวิจัยต่างประเทศ พัฒนาต่อยอดจากหนังสือ เล่นเพื่อชีวิตของเด็ก ภาค 2 โดยมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เพื่อให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจการส่งเสริมการเล่นและการสร้างสภาพแวดล้อมแบบมีส่วนร่วม หวังว่าจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างรอบด้าน และเติบโตอย่างมีความสุข เพื่อเป็นผู้สร้างความสุขให้โลกต่อไป โดยเนื้อหาภายในเล่มครอบคลุมประเด็นสำคัญ ได้แก่
- การจัดสภาพแวดล้อมสำหรับเด็ก
- สิ่งแวดล้อมการเล่นดีมีผลต่อการพัฒนาเด็ก
- ความสำคัญของพื้นที่การเล่นที่ต้องพัฒนาต่อเนื่อง
- การพัฒนาการมีส่วนร่วมในการเล่น
- แนวทางปฏิบัติในการจัดสภาพแวดล้อม
- ขั้นตอนลงมือทำ การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างพื้นที่แก่เด็ก
เอกสารอ้างอิง:
letsplaymore. (2568). เล่น…เพื่อสร้างโลกที่เป็นสุข แนวทางจัดสภาพแวดล้อมการเล่นสำหรับเด็ก. https://shorturl.asia/jwqnv