
การเล่นเป็นธรรมชาติของเด็ก เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน มีความสุข และเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาชีวิตเด็ก แต่ผู้ใหญ่มักคาดหวังผลลัพธ์จากการเล่นมากเกินไป มุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้จนลืมไปว่าธรรมชาติของเด็กคือการต้องการเล่นอย่างสนุก อิสระ มีพื้นที่และเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเล่น ส่วนการเรียนรู้นั้นเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้การเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ
กระบวนการเรียนรู้ของเด็กเกิดจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ลิ้น รวมถึงการสัมผัสผ่านร่างกาย ดังนั้นการเรียนรู้จากการเล่นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเล่นอิสระที่เด็กเป็นผู้คิดขึ้นเอง และเล่นด้วยแรงบันดาลใจของตัวเอง การเล่นเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายตายตัว สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างยืดหยุ่น
การเล่นอิสระทำให้เด็กได้เรียนรู้อย่างไม่มีข้อจำกัด เด็กสามารถเรียนรู้จากความท้าทาย จัดการตนเอง พัฒนาตัวเอง มีความมั่นใจ และได้รับความสุขตามที่ต้องการ การเล่นยังช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะการแก้ปัญหาและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
เนื้อหาในคู่มือเล่มนี้เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ศูนย์การเล่นดวงแข หนังสือคู่มือการเล่นของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กและแหล่งข้อมูลต่างประเทศ รวมถึงแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก โดยมีความตั้งใจเพื่อช่วยให้ผู้ใหญ่ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการเล่น เข้าใจแนวทางการพัฒนาเด็กผ่านการเล่น สามารถแยกความต่างระหว่างการเล่นอิสระกับการเล่นที่ผู้ใหญ่กำหนดให้เด็กเล่น โดยเนื้อหาภายในเล่มครอบคลุมประเด็นสำคัญ ได้แก่
- แนวคิดเกี่ยวกับการเล่นอิสระ (Free Play) และทฤษฎี Loose parts
- แนวคิดเกี่ยวกับสิทธิการเล่นของเด็ก และแนวคิดเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กตามช่วงวัย
- การสร้างพื้นที่เล่นสำหรับเด็ก การออกแบบการเล่น และขั้นตอนการทำงาน
- บทบาทผู้ดูแลการเล่นของเด็ก (Play Worker) และกระบวนการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลการเล่น (Play Woker)
- บทบาทผู้ดูแลการเล่น ( Play Worker) และการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลการเล่น (Play Worker)
นอกจากนี้ยังเน้นบทบาทสำคัญของผู้ใหญ่ในการดูแลและเอื้ออำนวยให้เด็กได้เล่นอย่างเหมาะสม ทั้งด้านพื้นที่ เวลา และสภาพแวดล้อม เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะชีวิต และเติบโตอย่างรอบด้านตามวัย
เอกสารอ้างอิง:
letsplaymore. (2568). Free Play “คู่มือการเล่นอิสระ” โดยกลุ่มไม้ขีดไฟ ปลดล็อกจินตนาการ ให้เด็กเล่นเต็มที่ ดาวน์โหลดฟรี. https://shorturl.asia/J7xUo